วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ครั้งที่ 2

14 สิงหาคม 2561



บทที่ ธรรมชาติการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย


* ธรรมชาติของเด็กปฐมวัย                                                                                                                       1. ลักษณะของการยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง                                                                                         2. มีความสามารถในขอบเขตจำกัดและแตกต่างกัน                                                                         3. ต้องการการเอาใจใส่ดูแลทั้งด้านร่างกายและจิตใจ                                                                     4. เป็นวัยที่ชอบอิสระ                                                                                                                             5. ชอบแสดงออกและต้องการการยอมรับ                                                                                           6. ชอบเล่น                                                                                                                                                 7. มีช่วงความสนใจสั้น


*การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย

ลักษณะการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย                                                                            1. การเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง                                                                                     การเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงเป็นการเรียนรู้ที่เด็กได้พบหรือสัมผัสกับประสบการณ์ จากสภาพแวดล้อมโดยการกระทำ การรับรู้ การพบเห็นด้วยตนเอง                                                                                                     2. การเรียนรู้จากประสบการณ์ทางอ้อม                                                                         การเรียนรู้จากประสบการณ์ทางอ้อม เป็นการเรียนรู้จากการบอกเล่าของบุคคลต่าง ๆ คนใกล้ชิดญาติผู้ใหญ่ หรือจากหนังสือ การสังเกตจากตัวแบบ การเลียนแบบการบอกเล่าให้ฟังจะทำให้เด็กสร้างภาพขึ้นในสมองของตนแทนการเห็นของจริง


การเรียนรู้เป็นกระบวนการซึ่งมีขึ้นตอน ดังนี้


1. มีสิ่งเร้ามาเร้าผู้เรียน
2. ผู้เรียนรับรู้สิ่งเร้า
3. ผู้เรียนแปลความหมายของสิ่งเร้าที่รับรู้
4. ผู้เรียนมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเร้าตามที่รับรู้และแปลความหมาย
5. ผู้เรียนสังเกตผลที่เกิดขึ้น

การจำแนกลักษณะการเรียนรู้ของเด็ก

ลักษณะที่ 1 การเรียนรู้โดยสัญชาตญาณ
ลักษณะที่ 2 เป็นการเรียนรู้จากการช่วยเหลือจากพ่อแม่
ลักษณะที่ 3 การเรียนรู้จากโปรแกรมการพัฒนาพฤติกรรมอย่างมีระบบ

รูปแบบการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย

1. การเรียนรู้โดยใช้ความสามารถในการใช้สายตา                                                                            เป็นการเรียนรู้ที่เด็กสามารถเปรียบเทียบด้วยสายตา ด้วยการมองเห็นความต่างความเหมือน สี ขนาด รูปร่าง และเป็นการเรียนรู้ที่เกิดจากการทำงานประสานสัมพันธ์ของสายตาและกล้ามเนื้อมือ
2. การเรียนรู้โดยการได้ยินได้ฟัง                                                                                                             จากการได้ยินได้ฟังเสียงจากที่ต่างๆ หรือจากบุคคล เด็กจะสามารถรู้ที่มาของเสียง สามารถแยกความเหมือนความต่างของเสียงได้
3. การเรียนรู้โดยการใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกาย                                                                                       ในการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ของกล้ามเนื้อ

แนวคิดของการเรียนรู้
1.การเรียนรู้ตามทฤษฎีของ BLOOM (BLOOM'S TAXONOMY)
Bloom ได้แบ่งการเรียนรู้ออกเป็น 6 ระดับ ประกอบด้วย
1.ความจำ (knowledge)
2.การประยุกต์ (Application)
3.ความเข้าใจ (Comprehend) ซึ่งเป็นระดับล่างสุด
4.การสังเคราะห์ (Synthesis)
5.การวิเคราะห์ ( Analysis) สามารถแก้ปัญหา ตรวจสอบได้ สามารถนำส่วนต่าง ๆ มาประกอบเป็นรูปแบบใหม่ได้ ให้แตกต่างจากรูปเดิม
6.การประเมินค่า (Evaluation) สามารถวัดได้ เน้นโครงสร้างใหม่ และตัดสินได้ว่าอะไรถูกหรือผิด

2.การเรียนรู้ตามทฤษฎีของเมเยอร์ (MAYOR)                                                      ในการออกแบบสื่อการเรียนการสอน การวิเคราะห์มีความจำเป็นและเป็นสิ่งสำคัญ และตามด้วยจุดประสงค์ของการเรียน โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนย่อย ๆ ด้วยกัน ประกอบด้วย

1. พฤติกรรมควรชี้ชัดและสังเกตได้
2. เงื่อนไขพฤติกรรมสำเร็จได้ควรมีเงื่อนไขในการช่วยเหลือ
3. มาตรฐาน พฤติกรรมที่ได้นั้นสามารถอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด

3.การเรียนรู้ตามทฤษฎีของบรูเนอร์ (BRUNER)
1. ความรู้ถูกสร้างหรือหล่อหลอมโดยประสบการณ์
2. ผู้เรียนมีบทบาทรับผิดชอบในการเรียน
3. ผู้เรียนเป็นผู้สร้างความหมายขึ้นมาจากแง่มุมต่าง ๆ
4. ผู้เรียนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นจริง
5. ผู้เรียนเลือกเนื้อหาและกิจกรรมเอง ซึ่งเนื้อหาควรถูกสร้างในภาพรวม

4.การเรียนรู้ตามทฤษฎีของไทเลอร์ (TYLOR)
1. ความต่อเนื่อง (continuity)
2. การจัดช่วงลำดับ (sequence)
3. บูรณาการ (integration)

5. ทฤษฎีการเรียนรู้ 8 ขั้น ของกาเย่ (GAGNE)
1. การจูงใจ (Motivation Phase)
2. การรับรู้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ (Apprehending Phase)
3. การปรุงแต่งสิ่งที่รับรู้ไว้เป็นความจำ ( Acquisition Phase)
4. ความสามารถในการจำ (Retention Phase)
5. ความสามารถในการระลึกถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปแล้ว (Recall Phase)
6. การนำไปประยุกต์ใช้กับสิ่งที่เรียนรู้ไปแล้ว (Generalization Phase)
7. การแสดงออกพฤติกรรมที่เรียนรู้ ( Performance Phase)
8. การแสดงผลการเรียนรู้กลับไปยังผู้เรียน (Feedback Phase)

พัฒนาการของเด็กปฐมวัย
หมายถึง กระบวนการของการเจริญเติบโตที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบระเบียบ ต่อเนื่องตามลำดับขั้นนำไปสู่การพัฒนาทางคุณภาพ พัฒนาการของมนุษย์เป็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเจริญเติบโต ควบคู่กับการพัฒนาทางคุณภาพ อารมณ์ สติปัญญาและสังคม


ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการเด็กปฐมวัย
บุคคลภายในครอบครัว บุคคลภายในครอบครัว                                                                  ประกอบด้วยพ่อ แม่พี่น้อง หรือญาติใกล้ชิดที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
บุคคลภายนอกครอบครัว บุคคลภายนอกครอบครัว                                                           ประกอบด้วยผู้ดูแลเด็ก ครู เพื่อน ๆ ตลอดจนอิทธิพลของสังคมโดยผ่านสื่อต่าง ๆ

การจัดกิจกรรมเพื่อการพัฒนาเด็กปฐมวัย
1. กิจกรรมที่จัดควรคำนึงถึงตัวเด็กเป็นสำคัญ
2. กิจกรรมที่จัดควรมีทั้งกิจกรรมที่ให้เด็กทำเป็นรายบุคคล กลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่
3. กิจกรรมที่จัดควรมีความสมดุล
4. ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมควรเหมาะสมกับวัย
5. กิจกรรมที่จัดควรเน้นให้มีสื่อของจริงให้เด็กได้มีโอกาสสังเกต

ลักษณะการจัดกิจกรรมผ่านการเล่น
กิจกรรมเสรี                                                                                                                            กิจกรรมเสรีเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กเล่นตามมุมการเล่นหรือมุมประสบการณ์หรือศูนย์การเรียนที่จัดไว้ภายในห้องเรียน
กิจกรรมสร้างสรรค์                                                                                                                กิจกรรมสร้างสรรค์ เป็นกิจกรรมที่ช่วยเด็กให้แสดงทางอารมณ์ ความรู้สึก ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และจินตนาการโดยใช้ศิลปะ
กิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ                                                                                      กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะเป็นกิจกรรมที่จัดให้
กิจกรรมเสริมประสบการณ์                                                                             กิจกรรมเสริมประสบการณ์ เป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้เด็กได้พัฒนาทักษะการเรียนรู้ฝึกการ ทำงานและอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มทั้งกลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่ กิจกรรมที่จัดมุ่งฝึกให้เด็กได้มีโอกาส ฟัง พูดสังเกต คิด แก้ปัญหาใช้เหตุผลและฝึกปฏิบัติ
กิจกรรมกลางแจ้ง                                                                                       กิจกรรมกลางแจ้งเป็นกิจกรรมที่จัดให้เด็กได้มีโอกาสออกไปนอกห้องเรียนเพื่อออกกำลังเคลื่อนไหวร่างกายและแสดงออกอย่างอิสระ
เกมการศึกษา                                                                                                  เกมการศึกษาเป็นเกมการเล่นที่ช่วยพัฒนาสติปัญญามีกฎเกณฑ์กติกาง่าย ๆ เด็กสามารถเล่นคนเดียวหรือเล่นเป็นกลุ่มได้


ประโยชน์ของการจัดกิจกรรม

     เด็กปฐมวัย เป็นวัยที่ต้องการออกมาสัมผัสกับโลกภายนอกมากขึ้น เริ่มมีสังคมนอกบ้าน เด็กจะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวด้วยความกระตือรือร้น อยากรู้อยากเห็น และมักมีจินตนาการ ของตนเอง เด็กจะเรียนรู้ภาษาและคำพูดได้เร็ว ชอบเลียนแบบในขณะเดียวกันก็ต้องการอิสระ อยากพึ่งตนเอง และต้องการทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง กิจกรรมของเด็กปฐมวัยจึง มีความสำคัญมาก



บทที่ 2 สื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย
                สื่อ หมายถึง สิ่งต่างๆ ที่เป็นตัวกลางที่ผู้เลี้ยงดูเด็กนำมาช่วยในการถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ ทัศนคติ ค่านิยมหรือทักษะที่ตนมีไปสู้เด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพและเด็กเกิดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ หรือจุดมุ่งหมายได้ดีที่สุด

ความสำคัญของสื่อ
•เป็นเครื่องมือส่งเสริมเด็กให้กล้าแสดงออกและเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
•เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์เครื่องมือเร้าความสนใจของเด็ก ให้ติดตามเรื่องราวด้วยความสนใจและไม่เกิดความรู้สึกว่าเป็น “การเรียน”
•เป็นเครื่องมือทำสิ่งที่เป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรม และได้เรียนรู้ได้รับประสบการณ์ตรงทำให้จดจำได้นาน 



ประเภทของสื่อการเรียนสำหรับเด็กปฐมวัย
แหล่งเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัยเป็น 2 ลักษณะ
 1. สื่อและแหล่งเรียนรู้ภายในห้องเรียน
 2. สื่อและแหล่งเรียนรู้ภายนอกห้องเรียน สภาพแวดล้อมต่าง



สื่อการสอนแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
 1. สื่อการสอนประเภทวัสดุ หมายถึง สิ่งช่วยสอนที่มีการสิ้นเปลือง เช่น ชอล์ก ฟิล์ม                ภาพถ่าย ภาพยนตร์  สไสด์ เป็นต้น
 2. สื่อการสอนประเภทอุปกรณ์  หมายถึง  สิ่งช่วยสอนที่เป็นเครื่องมือ ซึ่งได้แก่ เครื่องเสียง เช่น เครื่องรับวิทยุและเครื่องเล่นเทปบันทึกเสียง กับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ทั้งเครื่องเสียงและเครื่องฉาย เช่น กระดานดำ ม้าหมุน และกระดานหก
  3. สื่อการสอนประเภทวิธีการหรือกระบวนการ ได้แก่ การจัดระบบการสาธิต การทดลอง เกม และกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมที่ครูจัดทำขึ้นแต่มุ่งให้นักเรียนเข้ามีส่วนในการปฏิบัติ เช่น การเล่นบทบาทสมมติ การจัดสถานการณ์จำลอง และการจัดศูนย์การเรียน เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น